วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

พระจักรพรรดิ์ศิลา "วัดม่วงชุมมหาเจดีย์บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"



พระจักรพรรดิ์ศิลา  
พระประธานประจำศาลาการเปรียญชั้นล่าง เป็นพระพุทธรูปหินทรายแกะสลัก สร้างโดยพระมหาจินตวัฒน์  จารุวฑฺฒโน เจ้าอาวาสวัดม่วงชุมองค์ปัจจุบัน

พระเจ้าทันใจ "วัดม่วงชุมมหาเจดีย์บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"


พระเจ้าทันใจ  
  สร้างโดยพระมหาจินตวัฒน์ จารุวฑฺฒโน  เจ้าอาวาสวัดม่วงชุมองค์ปัจจุบัน สร้างเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ..๒๕๕๐ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมายุ ครบ ๘๐ พรรษา เป็นพระพุทธรูปหินทรายแกะสลัก ประดิษฐานที่หน้าพิพิธภัณฑ์พระครูรัตนาธาร

พระพุทธจักรพรรดิ์ทรงเครื่องใหญ่ "วัดม่วงชุมมหาเจดีย์บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"

พระพุทธจักรพรรดิ์ทรงเครื่องใหญ่ 
     เป็นศิลปะล้านนาโดยช่างชาวลำพูน ประดับด้วยรัตนชาติ  แต่เดิมนั้นเป็นหลวงพ่อแช่ม แล้วมาสร้างพระพุทธจักพรรดิ์ครอบประดิษฐานภายในวิหารพุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย  บูรณะสร้างขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๑  โดย พระมหาจินตวัฒน์  จารุวฑฺฒโน ป.ธ.๘  เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน

พระพุทธชินราช (จำลอง) "วัดม่วงชุมมหาเจดีย์บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"


พระพุทธชินราช (จำลอง
                             ประดิษฐานเป็นองค์ประธานในพระพุทธมหาเจดีย์บางระจันในปี พ.ศ.๒๕๓๕ โดยมีพระครูรัตนาธารเป็นผู้สร้าง

พระครูรัตนาธาร (หลวงพ่อเยื้อน) "วัดม่วงชุมมหาเจดีย์บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"


พระครูรัตนาธาร อดีตเจ้าอาวาสวัดม่วงชุมมหาเจดีย์บางระจัน    ท่านเป็นคนบ้านจ่า มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด  ๔  คน พระครูรัตนาธารได้เปรียญธรรม ๔ ประโยค และท่านเป็นหนึ่งใน ๑๐๘ พระเกจิอาจารย์ดังทั่วประเทศ  หลวงพ่อมรณภาพเมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๔๗ อายุ ๘๓ ปี ด้วยโรคชรา

พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อพระครูรัตนาธาร "วัดม่วงชุมมหาเจดีย์บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"




พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อพระครูรัตนาธาร
เป็นอาคารคอนกรีต จตุรมุขชั้นเดียว หน้าบันทั้ง ๔ ด้าน เป็นรูปพัดยศ เป็นที่ตั้งเก็บสรีระศพพระครูรัตนาธาร (เยื้อน กิตฺติคุโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดม่วงชุม

วิหารพุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย "วัดม่วงชุม อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"


 วิหารพุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย
เป็นวิหารคอนกรีตกว้าง ๕.๖๐ ยาว ๑๔.๓๑ เมตร สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๖ บูรณะใหม่  พ.ศ.๒๕๕๑ จั่วชั้นเดียว หน้าบันทั้งด้านหน้าและด้านหลังเป็นปูนปั้นเทพพนม ล้อมรอบด้วยลายไทย ประตูหน้าต่างเป็นลายปูนปั้น ซุ้มเรือนแก้วหน้าต่างด้านละ ๒ ช่อง เพดานปูนสีขาว ฝาผนังด้านในประดับด้วยไม้แกะสลัก ๖ รูป พื้นเป็นหินอ่อนแล้วปูด้วยพรหม

พระมหาเจดีย์บางระจัน "วัดม่วงชุม มหาเจดีย์บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"




พระมหาเจดีย์บางระจัน

วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556

"พระศรีอาริยเมตไตรย์" "วัดม่วงชุม มหาเจดีย์บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"



"พระศรีอาริยเมตไตรย์"  
          พระพุทธรูปทรงเครื่องดอกพิกุล สร้างเมื่อสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น  เป็นพระโบราณของวัดประดิษฐานในพิพิธภัณฑ์พระครูรัตนาธาร

"หลวงพ่อดำ" "วัดม่วงชุม มหาเจดีย์บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"




"หลวงพ่อดำ"  ขุดพบเฉพาะเศียรพระ เป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนกลาง มีพระพักตร์สวยงามและมีอำนาจ อายุราว ๔๐๐ ปี  ปัจจุบันได้สร้างองค์พุทธรูปขึ้นและใช้เศียรพระเดิมที่ขุดพบเป็นส่วนเศียร

อุโบสถ "วัดม่วงชุม อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"






อุโบสถ 
         สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๓ กว้าง ๗.๒๕ เมตร ยาว ๑๖ เมตร อาคารคอนกรีต ฝาทั้ง ๔ ด้านใช้ปูนหล่อ โดยการสร้างแบบขึ้นแล้วเทปูนใส่แบบ ไม่ใช่การก่ออิฐถือปูน หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาสีน้ำตาลแดง จั่วซ้อน ๒ ชั้น มีช่อฟ้าใบระกาและหางหงส์ หน้าบันมี ๒ ด้าน หน้าบันด้านหน้าเป็นปูนปั้นพระนารายณ์ทรงครุฑ ล้อมรอบด้วยลายไทย ใต้หน้าบันเขียนว่า “สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๓” รวมอายุ ๗๒ ปี หน้าบันด้านหลังเป็นปูนปั้นฐานลอยพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณล้อมรอบด้วยลายไทยและเทพพนม

วันเสาร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2556

พระพุทธชัยมงคลสุพรรณรังสีโลกนาถมหามุนี (หลวงพ่อขาว) "วัดม่วงชุม มหาเจดีย์บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"


พระพุทธชัยมงคลสุพรรณรังสีโลกนาถมหามุนี ((((หลวงพ่อขาว
           พระประธานในอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย  เดิมมีสีขาว ต่อมามีการลงรักปิดทองคำแท้จนกลายเป็นสีเหลืองทองทั้งองค์ เดิมทีนั้นตั้งอยู่พูนดินกลางแจ้ง  แล้วจึงสร้างอุโบสถครอบในภายหลัง  อายุประมาณ ๒๐๐ ปี หน้าตักกว้าง ๒.๘๕ เมตร จากฐานถึงยอดพระเกศสูง ๓.๖๐ เมตร และฐานสูง ๑ เมตร พระหัตถ์ซ้ายประคองดวงแก้วสีขาว เป็นพระใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในลุ่มแม่น้ำน้อย คาดว่าปั้นพระพุทธรูปนี้ขึ้นมาเพื่อทับปิดกรุสมบัติไม่ให้พม่าเอาไป

พระมหาเจดีย์บางระจัน "วัดม่วงชุม มหาเจดีย์บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"

พระมหาเจดีย์บางระจัน
            เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม ฐานสูงจากพื้นดิน ๒.๔๕ เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง ๑๒ เมตร องค์เจดีย์สูง ๔๕ เมตร ฐานประทักษิณด้านละ ๑๒ เมตร เป็นพระพุทธเจดีย์ที่สร้างเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอันเชิญมาจากประเทศอินเดีย
สร้างโดยพระครูรัตนาธาร (เยี้อน กิตฺติคุโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดม่วงชุม และเจ้าคณะอำเภอบางระจัน

"วัดม่วงชุม มหาเจดีย์บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"


ประวัติ  ความเป็นมา  ความหมายของชื่อ
"วัดม่วงชุม มหาเจดีย์บางระจัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี"
         สันนิษฐานว่าสร้างตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมชื่อว่า “วัดกระดังงา” เป็นวัดร้างตั้งแต่สมัยสงครามกับพม่าและเสียกรุงครั้งที่ ๒ โดยได้ขุดพบเศียรพระหินทรายเป็นจำนวนมาก ดังมีตัวอย่าง คือ หลวงพ่อดำ ประดิษฐานอยู่บริเวณหลังวัด  ปัจจุบันยังปรากฏซากปรักหักพังใต้ดินอยู่ด้านเหนือของวัด  ต่อมาเมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองสงบหลังมีอิสระภาพจากพม่า ชาวบ้านจึงได้กลับมาตั้งถิ่นฐานใหม่ จนประมาณ พ.ศ. ๒๔๒๔ นายโคกร่วมกับชาวบ้านได้ก่อสร้างวัดขึ้นมาใหม่ ณ ที่ตั้งวัดปัจจุบันซึ่งใกล้กับวัดเดิม และตั้งชื่อว่า “วัดม่วงชุม”
            ที่มาของชื่อวัดม่วงชุม มาจาก ชาวบ้านบางระจันได้ไปชุมนุมกันที่ใต้ต้นมะม่วงเพื่อที่จะทำการสร้างวัด จึงได้ตั้งชื่อว่า “วัดม่วงชุม”แปลว่า “ชุมนุมใต้ต้นมะม่วง”